วิธีแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการทำงานของ CPU และ GPU.: Fixed CPU and GPU performance on Windows 11 23H2

วิธีแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการทำงานของ CPU และ GPU บน Windows 11 23H2

การปรับแต่ง Windows 11:

  1. ปิดการใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน: ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > พลังงานและแบตเตอรี่ เลือก โหมดประสิทธิภาพสูงสุด

  2. ปิดการใช้งาน Visual Effects: ไปที่ การตั้งค่า > ระบบ > เกี่ยวกับ เลือก การตั้งค่าระบบขั้นสูง > การตั้งค่าประสิทธิภาพ > แท็บการปรับแต่ง ภายใต้ ผลกระทบต่อภาพ เลือก ปรับเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด

  3. ปิดการใช้งาน Startup Programs: ไปที่ Task Manager > แท็บ Startup คลิกขวาที่โปรแกรมที่ไม่จำเป็น เลือก ปิดการใช้งาน

  4. อัปเดตไดรเวอร์: ไปที่ Device Manager คลิกขวาที่อุปกรณ์ CPU และ GPU เลือก อัปเดตไดรเวอร์

การปรับแต่ง CPU:

  1. ตรวจสอบ Task Manager: เปิด Task Manager ตรวจสอบว่า CPU ใช้งานเต็มที่หรือไม่

  2. ปิดการใช้งาน Hyper-Threading: ไปที่ BIOS ค้นหาตัวเลือก Hyper-Threading ปิดการใช้งาน

  3. Overclock CPU: เพิ่มความเร็ว CPU ผ่าน BIOS (ไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้ทั่วไป)

การปรับแต่ง GPU:

  1. ปรับแต่ง NVIDIA Control Panel:

    • ตั้งค่า Power Management Mode เป็น Prefer Maximum Performance
    • ตั้งค่า Texture Filtering - Quality เป็น Performance
  2. ปรับแต่ง AMD Radeon Settings:

    • ตั้งค่า Global Graphics > Power Efficiency เป็น Prefer Maximum Performance
    • ตั้งค่า Gaming > Graphics > Texture Filtering Quality เป็น Performance

การแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม:

  1. ตรวจสอบอุณหภูมิ: ตรวจสอบอุณหภูมิ CPU และ GPU ว่าร้อนเกินไปหรือไม่

  2. สแกนหา Malware: สแกนหา Malware ที่อาจใช้ CPU สูง

  3. รีเซ็ต Windows 11: รีเซ็ต Windows 11 เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น (ตัวเลือกสุดท้าย)

หมายเหตุ: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้งาน

คำเตือน: การปรับแต่ง BIOS และ Overclock CPU อาจทำให้ระบบทำงานไม่เสถียร

#Windows11
#CPU
#GPU
#ประสิทธิภาพการทำงาน
#ช้า
#แก้ไขปัญหา
#23H2